ประกันอุบัติเหตุสำหรับนักเรียน

นั้นการคุ้มครองคร่าวๆของแต่ละบริษัทจะคล้ายกันดังนี้คือ เป็นการ ประกันภัยอุบัติเหตุ สำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุทุกแห่งทั่วโลก และคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง กำหนดกรมธรรม์มีระยะเวลา 1 ปีเต็ม ขณะประกอบกิจกรรมต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา และนอกสถานศึกษา อาทิเช่นการพักผ่อนอยู่กับบ้าน  การเดินทางไปทัศนศึกษา เดินทางไป-กลับระหว่าง บ้านและสถานศึกษา และภัยจากอุบัติเหตุอื่นๆ ซึ่งมองในภาพรวมก็ถือว่าคุ้มเพราะค่าเบี้ยถูก และ สามารถเข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาล ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกเข้าโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดในขณะที่เกิดเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะเป็น โรงพยาบาลเอกชน แน่นอนว่าผู้ปกครองหลายๆคนคงคิดว่าหากเกิดอะไรขึ้น ก็จะได้รับการรักษาที่ทันท่วงที แต่ สิ่งที่หลายๆคนไม่รู้คือ เราต้องออกเงินเองก่อน แล้วจึงทำเรื่องเบิกกับทางประกันที่ทางโรงเรียนเลือกทำให้กับนักเรียน ไว้ ซึ่งวงเงินกรรมธรรม์นั้นก็ขึ้นอยู่กับทางโรงเรียนเลือกกรมธรรม์ให้กับนักเรียนซึ่งส่วนมากจะไม่เกิน 100,000 บาท

        แน่นอนว่าเมื่อหลายคนไม่รู้ในข้อนี้ทำให้การใช้ ประกันอุบัติเหตุสำหรับนักเรียน จึงมีปัญหาซึ่งมีหลายกรณีเช่น ผู้ปกครองเงินไม่พอจ่ายค่ารักษา เนื่องจากขณะที่เด็กเกิดอุบัติเหตุนั้นมีผู้นำเด็กไปส่งยังโรงพยาบาลเอกชนซึ่งมีค่ารักษาแพง และ ตัวเด็กเองก็ไม่รู้ว่าต้องจ่ายค่ารักษาก่อน เพราะส่วนใหญ่ยื่นบัตรประกันเข้าไปทุกโรงพยาบาลก็รับไว้หมด แล้วแจ้งทีหลัง

        และสิ่งที่สำคัญคือ บัตรประกันควรให้พกติดตัวพร้อมบัตรประชาชน  หรือ บัตรนักเรียน เพราะบัตรเหล่านี้จะมีเลขประจำตัวประชาชนซึ่งตรวจสอบข้อมูลต่างๆได้ และจะได้เลือกใช้สิทธิการรักษาได้ทันท่วงทีด้วย เรื่องเล็กๆ ที่อาจใหญ่สำหรับนาทีชีวิตรู้ไว้จะได้ไม่ประมาทและรู้ถึงการใช้สิทธิการรักษาเพื่อนาทีชีวิตของบุตรหลานเรา

ประกันอุบัติเหตุกลุ่ม สำหรับนักเรียนและนักศึกษา ตั้งแต่อนุบาลถึงมหาวิทยาลัย เบี้ยต่ำสุด 88 บาทท่านคน / ต่อปี พร้อมค่ารักษา 3,000 บาท

ปัจจุบันด้วยสภาพอากาศ สิ่งแวดล้อม รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันล้วนส่งผลให้คนทุกวัยเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งได้มากขึ้น โดยข้อมูลล่าสุดจากกรมการแพทย์ได้เปิดเผยสถิติผู้ป่วยโรคมะเร็งรายใหม่มีจำนวนมากถึง 140,000 คน/ปี หรือ 400 คน/วัน ซึ่งจากจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน การเลือกวิธีรักษาก็เป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีวิธีรักษาโรคมะเร็งอยู่หลายวิธี แต่วิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมได้แก่ Chemotherapy (ยาเคมีบำบัด), Targeted Therapy (การรักษาแบบเฉพาะเจาะจง) และ Immunotherapy (ยาภูมิคุ้มกันบำบัด) ซึ่งแต่ละวิธีมีความน่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยมะเร็งมาก วันนี้เมืองไทยประกันชีวิตจะพาไปดูว่าการรักษามะเร็งแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร และค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ตามมาเลย!

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้